จับเข่านั่งคุย :: วิเคราะห์ซีรีย์ Peaky blinders ตอนที่ 1
สิ่งที่น่าสนใจในซีรีสPeaky blinderก็คือ Mafia ซึ่งเป็นประเด็นมีความสำคัญว่าทำไมการเมือง ถึงได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับ มาเฟียได้อย่างไร ดังนั้นจะขอเริ่มที่คำว่า Mafia มาจากอะไร
มาเฟีย (Mafia) เป็นกลุ่มคน หรือสมาชิกของกลุ่มคน ที่รวมตัวกันเพื่อประกอบมิจฉาชีพในการทำมาหากิน โดยดั้งเดิมแล้ว มาเฟีย คือ กลุ่มพันธมิตรในยุคกลางของอิตาลี ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านชาวนอร์มันและชาวเติร์ก ต่อมาจึงกลายเป็นคำเรียกองค์กรลับต่างๆ ในอิตาลี เป็นชื่อเรียกของกลุ่มสังคมที่ผิดกฎหมายอย่างลับๆ เชื่อกันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงกลางของศตวรรษที่ 18 ในซิซิลีประเทศอิตาลี จากนั้นจึงเริ่มแผ่กระจายไปยังสหรัฐอเมริกาแคนาดา และออสเตรเลีย และพิธีกรรมของมาเฟียก็จะคล้ายคลึงกันแต่สมาชิกต้องสืบเชื้อสายอิตาเลียนโดยตรงและนับถือศาสนาโรมันคาทอลิก และผู้ที่เป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวโดยผ่านพิธีกรรมมาแล้วผู้ใดผู้หนึ่งจะแตะต้องหรือฆ่าไม่ได้นอกจากได้รับคำสั่งจากหัวหน้าครอบครัว มาเฟียไม่ได้ทำแต่เรื่องผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังรับใช้ราชวงศ์ หรือมีส่วนร่วมในหน่วยงานของรัฐ หรือแม้แต่การแผ่ขยายอาณาเขตของตนและยังมีส่วนร่วมในการช่วยสงครามโลกครั้งที่สอง และเนื่องด้วยกลุ่มมาเฟียนั้นมีความคล้ายคลึงกับกลุ่มธุรกิจเครือข่ายที่ ขับเคลื่อนด้วยการแบ่งผลประโยชน์ซึ่งกันและกันในกลุ่มเครือข่าย
มาเฟียเปรียบเสมือนกับกลุ่มนักธุรกิจมีความคล้ายคลึงกัน คือมีการลงทุนแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองในเขตเศรษฐกิจที่ตัวเองปกครองเขตนั้น มีตัวอย่างในซีรีย์คือ เริ่มแรกในช่วงตอนต้นของซีรี่ส์ แก๊ง Peaky Blinder ได้ทำการลงทุนที่สนามแทงม้า ซึ่งมีเจ้าของที่ใหญ่ Billy Kimber เป็นผู้ควบคุมสนามม้าทั้งหมด ส่วนของPeaky Blinderนั้นจะลงทุนในที่อื่นๆ และใช้ม้าของตัวเองเป็นม้าแข่งขันและมีการข่มขู่ให้ชาวบ้านในแถบที่ตนปกครองอยู่นั้นให้เลือกลงพนันฝั่งม้าตัวเอง เพื่อแสวงหากำไรจากการลงพนันแข่งม้าจากเขตที่แก๊งPeaky Blinder ปกครองเพื่อเป็นหลักประกันว่า ถ้าหากชนะก็จะได้กำไรมากขึ้นจากการลงแข่งม้าและการพนันม้า หากแพ้ก็จะได้เงินค่าแพ้จากการลงพนันของคนในเขตปกครองมาเป็นหลักประกันว่าจะไม่เสียหายมากเกินไป และไม่เพียงแค่นั้น ซึ่งในรูปแบบนี้เป็นวิธีทำธุรกิจในช่วงแรก แต่ก็มีสิ่งสำคัญให้เห็นคือ เมื่อพูดคำว่ามาเฟียแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือ สิ่งผิดกฎหมายในกลุ่มมาเฟียนั้นเป็นผู้ที่สามารถทำได้
ซึ่งการที่สามารถทำให้สิ่งที่ผิดกฎหมายทำให้ถูกกฎหมายได้นั้น สิ่งที่ตามมาคือเงินจำนวนมหาศาลจากการได้รับความสนใจจากผู้คนในระแวงนั้น เพราะสิ่งที่ผิดกฎหมายในเป็นสิ่งที่รัฐเป็นผู้ห้ามแต่การห้ามนั้น เป็นการห้ามผ่านกฎระเบียบที่ได้สร้างขึ้น จากตัวสังคมเอง ซึ่งทำให้สิ่งผิดกฎหมายเป็นสิ่งที่ท้าทายและในบางธุรกิจที่ผิดกฎหมายก็เป็นหนทางร่ำรวยมั่งคั่งได้พริบตา เช่นการเล่นพนันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด ในทางเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นนั้น ธุรกิจที่ผิดกฎหมายส่วนใหญ่จะมีจำนวนน้อยกว่าธุรกิจทั่วไป เช่นธุรกิจลงพนันม้าอย่างถูกกฎหมาย ธุรกิจสุรา บุหรี่ เป็นต้น จะเห็นได้ชัดว่า ธุรกิจเหล่านี้ เจ้าของธุรกิจจะต้องสามารถที่จะรับแรงกระทบทางสังคมได้ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ผิดหลักศีลธรรมทางสังคม อาจทำให้ภาพลักษณ์เจ้าของธุรกิจกระทบไปด้วยและแน่นอนว่าผู้ที่สามารถรับมือกับการสร้างภาพเจ้าของธุรกิจที่ผิดกฎหมายนั้นก็จะต้องเป็น มาเฟีย
แน่นอนว่ามาเฟียก็ได้กลายเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ประกอบธุรกิจในทางผิดกฎหมายที่นำความเจริญเข้าสู่ท้องถิ่นได้มากขึ้น เป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และรัฐยังสามารถที่จะเก็บผลประโยชน์เช่น ธุรกิจการพนันแข่งม้าของแก๊ง Peaky blinder ที่สามารถทำให้ถูกกฎหมายแล้ว กลายเป็นการขยายของตัวเศรษฐกิจและความเจริญในระแวงนั้นไปด้วย ทำให้การไหลเวียนของเงินตราในระบบ รัฐเข้ามาเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นการได้ประโยชน์ทั้ง สองฝ่าย
ทำไมกลุ่มมาเฟียถึงสามารถที่จะเข้าถึงธุรกิจผิดกฎหมายกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ในยุคสมัยใหม่สิ่งที่ขับเคลื่อนทำให้รัฐสามารถที่จะมั่งคั่งได้ผ่านการใช้เหล่ามาเฟียที่ประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายได้โดยที่ไม่กระทบต่อรัฐโดยการสร้างโครงสร้างให้การปกครองของผังเมืองในส่วนนั้นเป็นส่วนที่ลับตาคน หรือเป็นแหล่งเสื่อมโทรม ซึ่งอาจจะกล่าวได้รัฐจงใจที่จะทำให้พื้นที่ส่วนนั้นเป็นแหล่งเสื่อมโทรม หรือเป็นแหล่งที่อนุญาติให้มาเฟียสามารถที่จะเข้าไปควบคุมได้ง่าย โดยการใช้คำว่าการพัฒนายังไปไม่ถึงหรือเป็นพื้นที่ที่ยากต่อการดูแล ทำให้เกิดการใช้ความรุนแรงหรือสิ่งที่ผิดกฎหมายได้อย่างที่กฎหมายไม่สามารถที่จะหาหลักฐานมายืนยันได้ และพื้นที่เหล่านี้ได้กลายเป็นพื้นที่ปกครองพิเศษแบบมาเฟียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และรัฐกลายเป็นเป็นผู้อุปถัมภ์มาเฟียในการกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์อะไรบางอย่าง เป็นการแลกผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน
ตัวอย่างในซีรีส์เห็นได้ชัด คือ ตอนที่วินสตัน เชอร์ชิลได้ทำการช่วยเหลือ Thomas Shelby และต่อมาThomas Shelby ก็ได้กลายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่สามารถคุมเขตการปกครอง และได้การเป็นหมากตัวสำคัญของเชอร์ชิลได้ใช้เป็นคะแนนเสียงในตอบแย้งกันในสภาและ โทมัสก็ได้รับการคุ้มครองจากตัวนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรและเส้นทางการขนส่งที่สามารถขนส่งของได้ทั่วถึงทุกที่ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งสามารถแสวงหากำไรจากสิ่งผิดกฎหมายได้ ดังนั้นทั้งคู่ มาเฟียและกลุ่มอำนาจเดิมสามารถแลดเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกันได้อย่างเท่าเทียม หากมาเฟียเริ่มมีอาการที่เริ่มขัดขืนในสิ่งที่ตกลงกันไว้ก็สามารถที่จะกำจัดได้โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องกลวาดล้างทำสงครามกันแต่รัฐจะวิธีทางกฎหมายเข้ามาจัดการกับ กลุ่มมาเฟียที่ขัดขืนและหากลุ่มใหม่มาทดแทน
ดังนั้น มาเฟียไม่ได้เป็นเพียงนักธุรกิจได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นยังสามารถเป็นได้ทั้งนักการเมือง กลุ่มนักธุรกิจทั้งผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย แต่ที่สำคัญคือ เป็นกลุ่มหรือองค์กรที่สามารถใช้ความรุนแรงได้โดยไม่ขออนุญาต จากทางเจ้าหน้าที่รัฐ และกฎหมาย ซึ่งกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ว่า มาเฟียทำให้ประชาธิปไตยมีความสั่นคลอน เนื่องจากสิ่งที่มาเฟียได้นำมานั้นไม่ได้มีเพียงการใช้ความรุนแรงทางกายภาพและจิตใจ ยังมาในรูปแบบของการแสดงความยิ่งใหญ่ในการจัดการกับนักการเมืองด้วยวิธีการใช้ความรุนแรงเข้าไปโจมตีนักการเมืองตรงข้ามและซึ่งมาเฟียจะแสดงตัวในการใช้ความรุนแรงในช่วงก่อนการเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ (Pre-Electoral) จะมีโอกาสพบเจอกับการใช้ความรุนแรงของมาเฟียบ่อยมากขึ้น