กรณีศึกษา : ผู้ติดเชื้อโควิด19 (โอไมครอน) เมษายน 65 และการรับวัคซีน
บทความนี้เป็นกรณีศึกษา ผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 (โคโรน่าไวรัส 2019, COVID-19) ตั้งแต่ก่อนรับเชื้อ และการรับเชื้อ(ช่วงเวลา) จนถึง การเริ่มเกิดอาการต่างๆในร่างกาย รวมถึงผลการตรวจ ATK ในแต่ละวัน โดยเคสที่ศึกษานี้ เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโคโรน่ามาแล้ว จำนวน 4 เข็ม วัตถุประสงค์ คือ อยากเก็บไว้เป็นความรู้ และส่งต่อความรู้ เพื่อการป้องกันโรคแก่คนทั่วไป ได้รับรู้ และหาทางป้องกัน การแพร่กระจายของโรค
ข้อมูลเบื้องต้น
ชายไทย อายุในช่วง 40-45 ปี
ไม่มีโรคประจำตัว
ได้รับวัคซีนมาแล้ว 4 เข็ม
วัคซีน : Sinovac1, Sinovac2, Pfizer3, Pfizer4
*Pfizer4 เข็มที่ 4 ฉีดเมื่อ กลางเดือน มค.65
วันที่ได้รับเชื้อ 19 เม.ย.65 เวลา 12.00-13.00 (ชัวร์)
วันที่เริ่มมีอาการเล็กน้อย 20 เม.ย.65 เวลา 19.00
ประเภทเชื้อที่ติด : คาดว่า คือ โอไมครอน ไม่ทราบรหัสเชื้อย่อย
ประวัติการได้รับเชื้อและอาการที่เกิดขึ้น
ในช่วงหลังงานเทศกาลปีใหม่ไทย งานสงกรานต์ ทุกหน่วยงานคาดว่าคงมีการบังคับให้พนักงานของแต่ละแห่งทำ ATK ก่อนมาทำงานตามปกติ หลังหยุดยาว ในช่วงสงกรานต์ 13-17 เมษายน 65 ปีนี้ ซึ่งตัวของผู้ป่วยเองก็มีอาการปกติ เพราะไม่ได้ไปในสถานที่เสี่ยงและพบปะกับผู้ที่ติดเชื้อ แม้จะสอบประวัติย้อนหลัง ก็ยังไม่มีผู้ใดติดเชื้อ ( นับจากผู้ป่วย ATK + ย้อนกลับไปที่ 13-17 เมย.ที่พบปะทุกคน ทุกคนไม่มีอาการป่วย) ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ในการเริ่มทำงานวันแรก 18 เมย.65 ตัวของผู้ป่วย ไม่มีเชื้อในร่างกาย ยังไม่ติดเชื้อ
สาเหตุการติดเชื้อ เกิดจาก คลัสเตอร์ “ข้าวเหนียวมะม่วง” อันนี้อาจจะตลก แต่เป็นเรื่องจริง เนื่องจากกระแสอันโด่งดังของ น้องมิลลิ ที่กินข้าวเหนียวออกคอนเสิร์ต ทำให้ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นที่รู้จักและโด่งดัง และนั่นเองทำให้ในการจัดงานรดน้ำดำหัว หลังเทศกาลปีใหม่ จึงมีคนสั่งให้มีการซื้อมาแจกจ่ายกันกินตามกระแส แต่จุดผิดพลาดก็คือ คนปลอกมะม่วง ในงานนี้ ดันติดเชื้อโควิดโดยไม่รู้ตัว (และตรวจเจอภายหลังจากงานเสร็จสิ้น) จึงเป็นจุดกระจายเชื้อให้กับผู้มาร่วมงาน
18 เมย.65
ผล ATK ก่อนเข้าทำงาน เป็น ลบ
(ไม่มีภาพ ไม่ได้ถ่ายไว้)
19 เมย.65
ผล ATK เวลา 8.00 น.ก่อนทำงาน เป็นลบ
เป็นวันที่มีกิจกรรมดำหัว ในบริษัท/ที่ทำงาน จึงมีการให้ทำ ATK ก่อนเข้างานทุกคน ซึ่งงานจะจัดในช่วงเวลา 11.00-13.00 น. ในห้องแอร์ ขนาดใหญ่ มีการรับประทานอาหารร่วมกัน+ข้าวเหนียวมะม่วง แต่แยกภารชนะ ช้อนซ้อม ไม่ได้กินแบบอาหารรวม ลักษณะคล้ายกินข้าวกล่อง คือ มีของใครของมัน แต่ว่า นั่งโต๊ะร่วมกัน กิจกรรมเสร็จสิ้นประมาณ 13.00 น.
19 เมย.65 เวลา 14.00 น.
20 เมย.65
มีการทำ ATK ก่อนไปทำงาน เวลา 8.00 น.ตามปกติ ผลการตรวจคือ ลบ ไม่ติด(ดังภาพ)
*หมายเหตุ การทำ ATK ทุกครั้ง ทำได้ถูกต้องแน่นอน แทงถึงในจุด นาโซฟาลิงเชี่ยว (Nasopharyngeal Swab) มั่นใจได้ในผลตรวจ
อาการที่เกิดขึ้นในวันนี้ :
ตลอดทั้งภาคกลางวัน ไม่มีอาการใดๆเกิดขึ้นเลย จนถึงช่วงเย็น เวลาประมาณ 19.00 น. มีอาการถ่ายเหลวอีก 1 ครั้ง ไม่มาก และเวลาประมาณ 21.00 เป็นต้นไป มีอาการ ระคายคอ บริเวณหน้าอก เหมือนคล้ายๆช่องคอมันแห้งๆ ทำให้เราอยากไอแห้งๆ แต่ไม่มาก เราสามารถกลั้นไอได้ ไม่มีไข้ ไม่มีน้ำมูก ไม่มีอาการอื่นๆ มีแค่นี้ ไม่ได้รับประทานยาใดๆ
21 เม.ย. 65
เวลา 8.00 น. ได้ทำการตรวจ ATK ตามหลักที่ถูกต้องทุกอย่าง ผลเป็น ลบ (-)
อาการที่มี :
มีอาการ ระคายคอ คอลงไปถึงหน้าอก มีความรู้สึกเหมือนมันแห้งๆสากๆ อยากไอแห้งๆ และเริ่มมีอาการไอในลำคอ ประมาณ อะฮึมๆในคอ แต่ไม่มีเสมหะให้เราถ่มออกมา ใดๆ แต่เริ่มเป็นบ่อยขึ้น ในช่วงเวลาที่มีอาการแบบนี้ คือ เวลา 8.00-12.00 น. จากนี้ ก็ไปรับประทานอาหารกลางวัน ก็ยังได้รับรส กลิ่มปกติยังกินข้าวได้ แต่รู้สึกว่า อาหารเริ่มไม่อร่อยเหมือนเดิมเล็กน้อย
ในเวลา 13.00 น.เป็นต้นไป อาการอะฮึมๆในคอ แต่ไม่มีเสมหะ มีมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง ผู้ที่ทำงานร่วมกันในสถานที่ทำงานเดียวกัน จากการสอบถาม มีอาการคล้ายกันเลยตามที่กล่าวมา อีก 2 คน และเริ่มมีอาการผิดปกติกับร่างกาย คือ เริ่มปวดหัวเล็กน้อย เริ่มเมื่อยๆตามร่างกาย แต่ยังไม่มีไอแบบชัดเจน ไม่มีไข้ แต่รู้สึกว่าตัวว่าไม่ปกติแน่นอน จึงขอตัวกลับเวลา 15.30 น. เพื่อป้องกันความเสี่ยงคนอื่นๆ
เมื่อกลับถึงบ้านจึงทำการแยกกักตัวเอง ไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาใกล้ ป้องกันคนในครอบครัว
เวลา 19.00 น. เริ่มปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอาการระคายคอเพิ่มมากขึ้น อยากไอมากขึ้น
เวลา 22.00 น. เริ่มมีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยร่างกาย ปวดหัว ระคายคอ รับประทานยาพาราเซลตามอล และนอนพักผ่อนถึงเช้า
22 เมย.65
เริ่มตรวจ ATK เป็นผล + ครั้งแรก เวลา 8.00 น.
อาการ : มีไข้ต่ำๆ รู้สึกไม่สบาย เพลียปวดเมื่อยร่างกาย ปวดหัว ระคายคอ มีไอเล็กน้อย มีเสมหะข้นสีเขียวในช่วงเช้า รู้สึกว่าน้ำมูกเริ่มเหนียวข้นขึ้น
* ATK ที่ ตรง C จางๆ เป็นเพราะ น้ำยา ยังวิ่งไม่ถึง C นานเท่าไหร่ แค่แตะ T ก็คือ เข้มเลย จึงถ่ายรูป แต่หากปล่อย 10 นาที จะเข้มที่ 2 ขีด
จากนั้นจึงเริ่มรับประทานยาลดไข้ แล้วนอนพัก ส่วนอาการสำคัญจะพบ คือ เวลาไอ จะมีเสลดเหนียวข้นออกมาด้วย สีขุ่น ไม่ขาวมาก แต่ไม่ไอบ่อย ไม่มีจาม
18.00 น. ช่วงเย็นๆหลังจากได้นอนพัก อาการดีขึ้นมาก แต่ยังมีไออยู่เล็กน้อย ไม่มีไข้แล้ว
20.00 น. ไม่มีไข้ ไอเป็นบางครั้ง เริ่มมีน้ำมูกใสนิดหน่อย ไม่มาก นานๆ จะต้องมาสั่งน้ำมูกออก
22.00 น. ไม่มีไข้ ไอเป็นบางครั้ง มีน้ำมูกใส เริ่มที่จะต้องมาสั่งน้ำมูกออกบ่อยขึ้น คล้ายเป็นหวัดมีน้ำมูก
พักผ่อนถึงเช้า ไม่มีอาการอะไรเพิ่มเติม
23 เมย.65
ด้วยความสงสัยว่า หากเราจะตรวจ ATK มันจะเป็นผล + อีกกี่วัน ตรวจ เวลา 8.00 น.ทุกวัน (ผลบวก)
จากการตรวจของวันนี้ จะเห็นว่าแทป T มีความจางลงกว่าเดิม แม้จะปล่อยเป็นเวลา 10 นาที ก็ตาม
อาการ : ในวันนี้ ตอนเช้า ไม่มีไข้ ไม่ค่อยไอ ถ้าไม่พูด ไม่ออกเสียง จะไม่ค่อยไอ หากพูดจะเริ่มไอ แต่อาการที่ปรากฏชัดเจนคือ มีน้ำมูกใส เยอะขึ้นมากๆ เหมือนกับว่า ร่างกายของเราพยายามขับน้ำมูกออกมาต่อสู้กับเชื้อโรคและพยายามพาเจ้าเชื้อโรคเหล่านี้ออกจากร่างกายเราด้วยน้ำมูก สารคัดหลั่งของร่างกาย มีอาการชัดเจนมากคือ อาการจาม จามบ่อยมาก เดาว่า เป็นช่วงที่แพร่กระจายเชื้อผ่านการไอจามได้ดีที่สุดช่วงหนึ่ง
อาการโดยรวมเหมือนคนปกติทั่วไป แต่เป็นหวัด มีน้ำมูก
** ข้อมูลครอบครัวของผู้ติดเชื้อรายนี้ **
วันที่ 19 เมย.65 — อยู่ร่วมกันกับครอบครัวปกติ ไม่มีมาตรการใดๆ
วันที่ 20 เมย.65 — อยู่ร่วมกันกับครอบครัวปกติ ไม่มีมาตรการใดๆ
วันที่ 21 เมย.65 — ตั้งแต่เวลา 15.30 น. กลับมาจากที่ทำงาน แยกกักกับครอบครัวตั้งแต่ตอนนั้น
** สถานนะของคนในครอบครัวผู้ป่วย **
ปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดมีอาการ ตรวจ ATK ผลเป็น ลบ
ตั้งแต่เวลา 12.00 เป็นต้นไป มีอาการน้ำมูกใส เยอะมาก มีอาการจามบ่อย ซึ่งเป็นการกระจายเชื้อ แพร่เชื้อที่ดีมากเลย ดังนั้น ต้องระมัดระวังไม่ให้กระจายให้ผู้อื่นให้มากเลย การจะติดกับคนหมู่มากเนี่ย จามทีเดียวคิดว่ากระจายได้ทั้งห้องแน่นอน
เรื่องอาหารการกิน
วันที่ 21 เมย.65 มื้อเย็น หลังเริ่มมีอาการ ยังไม่มีอาการเบื่ออาหาร รับรสปกติ รับกลิ่นปกติ
วันที่ 22 เมย.65 ตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา เริ่มมีอาการ เบื่ออาหารเล็กน้อย รับรสและกลิ่นได้ 50%
วันที่ 23 เมย.65 ช่วงเช้า มีอาการเบื่ออาหาร รับรสและกลิ่นได้ 30% , ช่วงบ่ายเป็นต้นมา เหลือ 10%
และในช่วงเย็นค่ำๆ รับรสสามารถรับได้ 5-7% และกลิ่นได้ 2-5%
ทดลอง อัดวาซาบิ คำโตๆ
24 เมย.65
ตื่นเช้ามาด้วยอาการ เจ็บคอเล็กน้อย มีน้ำมูกใส เสียงเปลี่ยน ไม่ค่อยไอ แต่มีจามบางครั้ง ไม่มีไข้แล้ว รู้สึกว่าความอยากอาหาร มีมากขึ้นเล็กน้อย อาการอื่นๆ ไม่ค่อยมีแล้วครับ อาการที่หนักที่สุดที่เป็นอยู่ตอนนี้คือ มีน้ำมูกใส ต้องคอยเช็ดตลอด แต่ไม่บ่อยเท่าเมื่อวาน เมื่อเวลา 8.00 น. ก็ทำการ ATK เหมือนทุกวัน ผลยังออกมาเป็นบวก เช่นเดิม แสดงว่า ร่างกายยังมีปฏิกิริยาต่อต้านกับไวรัสอยู่ ยังสร้าง Antigen มาอยู่ ทำให้ตรวจจับได้เช่นเดิม
สรุปอาการวันนี้
(เช้า) — เจ็บคอ มีน้ำมูกใส จามบางครั้ง การรับรส และกลิ่นดีขึ้น ประมาณ 20% ความอยากอาหารดีขึ้ันเล็กน้อย
(กลางวัน) — มีน้ำมูกใส จามบางครั้ง ไม่มีเจ็บคอแล้ว การรับรส และกลิ่นดีขึ้น ประมาณ 30% ความอยากอาหารดีขึ้น ประมาณ 30%
(เย็น) — มีน้ำมูกใสลดน้อยลง ไม่มีจามแล้ว ไม่มีเจ็บคอ การรับรส และกลิ่นดีขึ้น ประมาณ 50% ความอยากอาหารดีขึ้น ประมาณ 50% ไม่มีปวดหัว มีมึนๆหัวเล็กน้อย น่าจะไม่เกี่ยวกับโรค
25 เมย.65
ตื่นนอนตอนเช้า ยังมีอาการเจ็บคอเล็กน้อย มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั่วตัวเล็กน้อย ไม่มีน้ำมูกใส แต่มีอาการคัดจมูกบ้าง เวลาพูดเสียงยังจะเปลี่ยนเหมือนคนเป็นหวัดเหมือนเดิม ไม่มีอาการไข้ และอื่นๆ รวมๆดีขึ้นมากแล้ว สามารถทำงาน ทำกิจกรรมได้เหมือนคนปกติ ผลการตรวจ ATK ยังเป็น + (บวก) เหมือนเดิม
สรุปอาการ
(เช้า) — เจ็บคอนิดหน่อยตอนตื่นนอน สายๆไม่มีแล้ว ไม่มีน้ำมูกใส ไม่มีจาม มีคัดจมูก เสียงเปลี่ยน การรับรส และกลิ่นดีขึ้น สามารถรับได้ประมาณ 80% ความอยากอาหารดี อยู่ที่ 70% ของช่วงปกติ
(กลางวัน) — ยังมีคัดจมูก เสียงเปลี่ยน ส่วนอื่นๆ อาการปกติ การรับรส และกลิ่นดีขึ้น ประมาณ 80% ความอยากอาหารดีขึ้น ประมาณ 70% ของช่วงปกติเช่นเดิม
(เย็น) — คัดจมูกน้อยลงมาก ยังมีเสียงเปลี่ยน หากพูดเยอะ ยังคัดคอ อยากกระแอมเหมือนเดิม ส่วนอื่นๆปกติดี การรับรส และกลิ่นดีขึ้น ประมาณ 80% ความอยากอาหารดีขึ้น ประมาณ 70% ของช่วงปกติเช่นเดิม ไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด
26 เมย.65
ตื่นนอนตอนเช้า ไม่ค่อยเจ็บคอแล้ว อาการอื่นๆไม่มี มีเพียงเหมือนจะเป็นเสมหะในลำคอ ในโพรงจมูก บางครั้ง พอบ้วนออกมา จะมีเสมหะเหนียว มีสีเขียวปน ไม่ใช่ขาวใส หรือขาวขุ่นอีกแล้ว การรับรส รับกลิ่นดีขึ้นมาก เกือบจะเป็นปกติ การอยากอาหารช่วงเช้ายังไม่ 100% เท่าไหร่ แต่ก็ใกล้เต็ม การทำ ATK ในช่วงเวลา 8.00 น. ยังเช่นเดิม คือ ผล + แต่ขีดของตัว T ตอนแรกๆ จางมาก เมื่อเทียบกับ C แต่พอทิ้งไว้ 10 นาที จึงเข้ม
อาการส่วนใหญ่ในวันนี้ แทบจะเหมือนคนปกติทั่วไป เพียงแต่มีความรู้สึกว่ามีเสมหะเหนียวอยู่ในลำคอและโพรงจมูก ทำให้การพูด ออกเสียง เหมือนขึ้นจมูก เพียงเท่านั้น
27 เมย.65
ตื่นนอนตอนเช้านี้ ไม่มีอาการเจ็บคออีกแล้ว แต่มีอาการคัดจมูกเล็กน้อย เสียงยังขึ้นจมูก มีน้ำมูกใส เหนียวแต่ไม่เยอะ สำหรับอาการอื่นๆเป็นปกติทุกอย่างแล้ว เวลา 8.00 น.ทำ ATK ผลออกมาเป็น + แบบที่ แทปตัว T นั้น จางมาก ตอนแรกที่น้ำยาวิ่งผ่าน แทบจะไม่ขึ้นเลย จนต้องรอมากกว่า 5 นาที และชัดที่สุดคือ 10นาทีเป็นต้นไป แต่ก็ยังจางอยู่แบบนั้น
การเทียบผลการตรวจ ATK เทียบกับผู้ที่ติดพร้อมกัน ในเหตุการณ์เดียวกัน
จากที่เคยเกริ่นนำไปตั้งแต่ต้นว่า ในการติดเชื้อครั้งนี้ มี 3 คนที่ติดเชื้อในเหตุการณ์นี้ พร้อมกันทั้ง ในชั่วโมงเดียวกัน และเมื่อมีการตรวจ ATK ในวันที่ 27 เมย.65 จะเกิดขึ้นคนละแห่ง คนละสถานที่ ไม่ได้นัดหมายกันไว้
และอีก 2 คนที่เหลือ ไม่ได้ตรวจ ATK ทุกวัน (ตรวจเพียงบางวัน) แต่สำหรับการตรวจวันนี้ มี 1 คน ตรวจพร้อมกับผู้ป่วย ผลก็คือ ได้ผล ATK + แบบจางๆเช่นเดียวกัน
มันมีความเป๊ะ เกี่ยวกับเรื่องเวลาในการตรวจ ATK เกิดขึ้นในครั้งนี้ เพราะมันคือเชื้อตัวเดียวกันแน่นอน แต่ไม่รู้ว่า โอไมครอน ชนิดรหัสย่อยอะไรแค่นั้น
จาการสอบถามอาการ ก็เช่นเดียวกัน ทุกคนบอกเหมือนๆกันเลยว่า หายดีแล้ว เพียงแต่เสียงขึ้นจมูก สามารถกลับมากินข้าวได้อย่างอร่อยเหมือนเดิมแล้ว จมูกได้กลิ่นดีขึ้นเยอะมากเกือบปกติ
**หมายเหตุ**
ในภาพ จะเห็นว่าตรวจ ATK คนละยี่ห้อ แต่ผลที่ได้กลับคล้ายกัน
28 เมย.65
เช้านี้ มีอาการคัดจมูกนิดหน่อย แต่จมูกโล่งดี เสียงยังขึ้นจมูก ไม่มีน้ำมูกใสแล้ว แต่มันเหมือนมีเสมหะในลำคอ อยากสั่งมันออกมา ซึ่งพยายามเอามันออกมา ก็เห็นว่ามีสีเขียวๆปนออกมาด้วย อาการอื่นๆปกติดี และในเวลา 8.00 น.ทำ ATK ผลออกมาเป็น + แบบจางๆอีกแล้ว ตอนแรกลุ้นว่า วันนี้น่าจะ เป็น – (Neg) แล้ว แต่ที่ไหนได้ ยังมี + จางๆซะงั้น
ขอลุ้นอีกวัน คิดว่าวันพรุ่งนี้น่าจะ Neg หรือเป็นลบแล้วแน่ๆเลย ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ จะถือว่าตรวจ ATK เจอผล + จำนวนทั้งหมด 7 วัน (ยังต้องรอดูผลพรุ่งนี้นะครับ)
UP DATE!!
29 เมย.65
#บทสรุปและการวิเคราะห์ ที่ได้รับจาการศึกษาครั้งนี้
- จากวันและเวลาที่ได้รับเชื้อ จนถึงเริ่มมีอาการ ระคายคอ/หน้าอก มีอาการคล้ายๆอยากไอ อะแฮ่มๆในลำคอ คือ 30 ชม.หลังจากได้รับเชื้อ (ยังตรวจ ATK เป็น ลบ)
- มีการตรวจ ATK ในช่วงเวลา หลังได้รับเชื้อ 44 ชม. ผลปรากฏว่า ยังเป็นลบ (ATK – )
- เมื่อผ่านไป 48 ชม. หรือ 2 วันเต็มจากที่ได้รับเชื้อ รู้สึกว่ามีอาการเด่นชัดมากขึ้น (แต่ตอนนั้นไม่ได้ตรวจ ATK จึงไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็น + หรือไม่ เพราะเป็นช่วงกลางวัน-เย็นแล้ว) คาดเดาว่า มีโอกาสเป็นไปได้ว่า อาจจะสามารถแพร่เชื้อได้ แต่ไม่มีน้ำมูก ไอ จาม ที่ชัดเจน แต่จะรู้สึกไม่สบายแล้ว
- ทำการตรวจ ATK หลังจากได้รับเชื้อ 68 ชม. ผลออกมาเป็น +
- มีอาการไม่สบายเยอะที่สุดอยู่ในช่วงเวลา 2-3 วัน หลังจากนั้นจะดีขึ้น
- ตรวจ ATK ทุกวัน ปรากฏว่าเจอ ATK+ ติดกันจำนวน 7 วัน วันที่ 8 ผลเป็นลบ
- เชื้อตัวนี้คาดว่าเป็น corona virus 2019 ชนิด omicron ไม่ทราบรหัสย่อย มีระยะฟักตัวสั้น ซึ่งแตกต่างกับเชื้อชนิด Delta ที่มีระยะฟักตัว 5-7 วัน แต่มีความรุนแรงมากกว่า
- สำหรับการศึกษาครั้งนี้ ATK ถือว่าน่าเชื่อถือ เพราะใช้ตรวจเทียบกับอาการและระยะเวลาที่เกิดอาการ (แต่ต้องระมัดระวังเรื่อง การใช้งานที่ถูกวิธี เพื่อผลที่ได้จะได้ถูกต้อง เช่น ต้องแยงจมูกได้ลึกถึงจุดที่เก็บเชื้อ)
- ตามข้อปฏิบัติทางกระทรวงสาธารณสุข คือ นับ 10 วันหลังป่วย(นับวันแรกที่มีอาการ) = ปลอดภัย *ใช้ได้กับผู้ป่วยปกติ* ถือว่าระยะเวลา 10 วัน น่าเชื่อถือได้ว่าไม่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ในกรณีนี้ คือ ATK+ จำนวน 7 วัน และ ATK- อีก 3 วัน รวม 10 วัน และวันที่ 11 ก็เป็นอิสระ
- การติดเชื้อครั้งนี้ ไม่ใช่ลักษณะของ airborne เพราะทุกคนร่วมรับประทานอาหาร ในห้องแอร์ขนาดใหญ่ แต่มีผู้ติดเชื้อที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ที่อยู่ในห้องนั้นเพียง 3 ราย แต่ถ้าผู้ป่วยคนแรก ทำการจาม ในห้องปิด ที่เปิดแอร์ มีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ติดเชื้อมากกว่านี้