เกาะติดประเด็นร้อน !! หุ้น MORE : บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ที่ กลต.ต้องปวดหัว

ประเด็นร้อนแรงในแวดวงการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้น ช่วงนี้ต้องยกให้กับหุ้น MORE ที่มีประเด็นแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร เล่นเอา กลต.ปวดหัวตึบ
สำหรับหลายท่านอาจจะงงๆ ก็จะขอสรุปสั้นๆให้ฟัง ดังนี้
หุ้น MORE มีราคาพาร์ 0.05 เปิดซื้อขายวันแรก ที่ 21 ธ.ค.2555 ซึ่งไม่ใช่หุ้น IPO ช่วงนี้ (หลายคนงง และเข้าใจผิด) เพราะเค้าซื้อขายกันมานานแล้ว
แต่ที่มีประเด็นคือ มันมีการเทขายอย่างหนัก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า น่าจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ รายหนึ่ง(แต่ภายหลัง ชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่ท่านนี้ เพราะหุ้นอยู่ครบ)
แต่ก็คงเป็นนักลงทุนรายใหญ่แน่นอนเพราะ มีหุ้นมากมาย แม้ว่าจะมีรายย่อยผสมอยู่นิดหน่อย
และมันคงจะไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นว่า………….. คนที่ตั้งซื้อหุ้นนั้น ส่วนใหญ่แล้ว มีเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น และใช้บัญชี มาร์จิ้น ในการซื้อซะด้วย(วงเงินกู้จากโบรค)
โดยมีเงินค้ำประกันที่โบรคบางส่วน และขอเครดิตวงเงินเพิ่ม ในการซื้อหุ้นครั้งนี้
แต่ว่าคนที่เดือดร้อนคือ คนขายหุ้น เพราะขายแล้ว ยังไม่ได้ตังค์ 555+ (ก็ต้องเดือดร้อนดิ)
โบรคจึงไปถามกับคนซื้อ ซึ่งคนซื้อก็บอกว่าตอนแรกจะพยายามหาแหล่งเงินมาให้ ไม่ว่าจะยืม หรือกู้มาให้ แต่เรื่องกลับมีข่าวมาก่อนซะงั้น แล้วทีนี้ใครจะให้ยืมละ ปั๊ดโธ่
Update !!
16 พย.65 — 11 โบรค ลั่น !! เตรียมสั่งฟ้องผู้ซื้อ และพรรคพวกประมาณ 20 คน ฐานฉ้อโกง และขอให้ ตลท.เร่งตรวจสอบหาความผิดปกติเพิ่มเติม
ซึ่งปัจจุบันก็ยังอยู่ตรงจุดนี้ หากมีความคืบหน้า จะมาเขียนเพิ่มต่อไป
17 พย.65 — ก.ล.ต. ห้ามบริษัท MORE ขายหุ้นเพิ่มทุนให้บอร์ด เพราะอยู่ในช่วงตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
18 พย.65 — ก.ล.ต. ระงับการประกอบธุรกิจเป็นการชั่วคราว ของบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด เนื่องจากเอาเงินสดของลูกค้าไปจ่ายค่าหุ้น MORE
21 พย.65 — ปลดล๊อค SPหุ้น MORE ปิดตลาดไปเบาะๆ -0.41 (29.93%) // ปปง.สั่งอายัดทรัยพ์สิน ปมหุ้น MORE มูลค่า 5,376 ล้านบาท
ซึ่งวัตถุประสงค์ในการบันทึกไว้ครั้งนี้ เพื่อเป็นกรณีศึกษา และเป็นบทเรียนสำหรับนักลงทุนทั่วไป เพราะเหตุการณ์แปลกนั้น อาจจะมีได้ไม่บ่อยนัก


- หุ้น MORE หุ้น 20 เด้ง จาก เดือน ตุลาคม 2019 (ราคา 0.14-0.15) ถึง 3 พฤศจิกายน 2022 (2.98) ใช้เวลา 3 ปีนิดๆ กับความสำเร็จหากดูงบการเงินแบบคร่าวๆ ของปี 2564 ที่พลิกมามีกำไร(เพราะอะไร ต้องไปดูไส้ใน) ซึ่งในปี 2562-2563 นั้นกำไรสุทธินั้นติดลบ แต่หุ้นก็ไต่ขึ้นมาได้เรื่อยๆ ด้วยความคาดหวัง(มั้ง 55+) และท้ายที่สุดก็ถูกเชือดจนติดฟลอในที่สุด ใคร(ลุก)ช้า ก็โดนกันไป