บันทึกเหตุการณ์สำคัญ การเมืองไทย เมื่อพรรคที่ได้เสียงมากที่สุด กลายเป็นฝ่ายค้าน 2 สค.2566
จะเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกครั้ง สำหรับมหากาพย์ การเมืองไทย ที่หานายกไม่ได้ จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่มีการเลือกตั้งทั่วประเทศ แต่ตอนนี้กลับไร้วี่แวว การเดินหน้าบริหารประเทศ และด้วยความคาดหวังจากประชาชนส่วนใหญ่ที่ ต้องการให้ พรรคก้าวไกล ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องบอกตามตรง ว่า “สว.” ไม่ให้ผ่าน เพราะติดเรื่อง มาตตรา 112 (ส่วนรายละเอียดคงต้องไปหาดูกันเองว่า เค้าจะแก้ไขอย่างไร แต่ก้าวไกลบอกว่า ไม่ได้ยกเลิก แต่แค่แก้ไข) แต่สุดท้าย ก็มีเรื่องราวแปลกๆมากมาย เช่น ก่อนโหวตครั้งแรก กกต.ก็ออกมาประกาศอะไรบางอย่าง 55 จนการโหวตครั้งแรก ที่ได้เสนอคุณพิธา ก็ไม่ผ่านมติเสียงข้างมาก (สว.ส่วนใหญ่งดออกเสียง จนเป็นที่สงสัยว่า เข้ามาทำหน้าที่ แต่งดออกเสียง แล้วจะมี สว.ไว้ทำไม?? ส่วนตัวมองว่า สว.ควรจะเลือกไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไปเลย แต่ถ้าจะงดออกเสียง ก็ควรตัดเสียงนั้นไป ไม่นำมาคิด) แม้แต่คุณอภิสิทธิ์ ยังพูดถึง สว. https://www.youtube.com/shorts/DtUM6dwZDWs
จนมาถึงการจะโหวตสรรหา นายก ครั้งที่ 2 ก็ดันมีเหตุการณ์แปลกๆอีก ก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องวินิจฉัย คดีหุ้นสื่อ ที่คุณพิธาถือไว้ 42,000 หุ้น(เยอะมากกกกกกๆๆๆ …… กรูประชด เฟ้ย) จริงๆเรื่องหุ้นสื่อเนี่ย หลายคนไม่เข้าใจว่า มันคืออะไร ก็จะขอบอกตรงนี้ว่า มันเป็นเรื่องการเมืองในอดีต ที่มีบางพรรคการเมือง มีสื่ออยู่ในมือ เช่น ช่องทีวี , วิทยุ ก็จะประโคมข่าวให้พรรคการเมืองตัวเองมีแต่ข่าวดีๆ และลงข่าวแย่ๆโจมตีพรรคคู่แข่ง จึงทำให้เกิดกฏเกณฑ์ตรงนี้ขึ้นมา ดังนั้นการที่มีหุ้นสื่อ ก็เปรียบได้ว่า มีส่วนรู้เห็นกับการที่สื่อนั้นๆ เผยแพร่มา แต่ด้วยจำนวนหุ้น 42,000 หุ้น จะถือว่าเยอะพอที่จะมีน้ำหนักไป ชี้นำบอร์ดบริหารของสื่อนั้นๆหรือเปล่า ก็ต้องดูเรืองของหุ้นทั้งหมดของบริษัทแล้วละครับ ที่เหลือ ประชาชนคงตัดสินกันได้ แต่ข้อกฏหมายก็คงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญว่ากันไป
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ประเทศไทยนั้น ก็ได้เกิดปรากฏการณ์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องของพรรคที่มีเสียงมากที่สุด แต่ต้องไปเป็น ฝ่ายค้าน ซึ่งมันเท่ากับว่า นโยบายที่พรรคก้าวไกลเสนอแก่ประชาชน และประชาชนขานรับแล้วนั้น อาจจะไม่ถูกนำไปปฏิบัติ (หรือจะเอาไปปฏิบัติก็ได้) ซึ่งมันก็เป็นเรื่องแปลกๆในสังคมการเมืองไทย ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ เชื่อว่า ประชาชนคนไทยทุกคนรับทราบกันดีว่า มีสาเหตุจากอะไร ?? คงไม่ต้องอธิบายมาก
ส่วนตัวของผู้เขียน ต้องขอบอกไว้ตรงนี้ว่า รักและเคารพทั้ง 3 สถาบันหลักของชาติ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และเป็นกลางทางการเมือง เพียงแต่รู้สึกแปลกๆ กับการเมืองไทยในช่วงนี้ ที่ทำให้การเมืองไทยมันเหมือนไม่ไปไหนสักที ขัดแข้งขัดขากันตลอด หลายคนก็ชัดเจนมากว่าทำเพื่อประเทศชาติ หลายคนก็ชัดเจนมากว่าทำเพื่อตนเองและพวกพ้อง ซึ่งผมเองก็อยากให้ช่วยกันมองถึงประชาชนคนไทย ที่มีความหวังกับการเมืองไทยให้มากกว่านี้
ว่ากันว่า การเมืองนั้น ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร นี่เป็นคำพูดที่จริงมากๆ เลยทีเดียว ในสามก๊ก เล่าปี่ ยอมร่วมมือกับซุนกวน เพื่อกำจัด โจโฉ ซึ่งก่อนหน้านั้น เล่าปี่ กับ ซุนกวน เป็นศัตรูกัน มันก็คงไม่ต่างกับการเมืองไทยวันนี้ หันไปซบคนโน้นที คนนี้ที เพื่อที่จะชนะสงคราม แต่สามก๊ก ก๊กที่ชนะสงคราม คือ ก๊กของโจโฉ ในท้ายที่สุด “การเมืองนั้นเค้าว่ากันว่า ไม่มีดี ไม่มีเลว และคนดีๆไม่ควรยุ่งกับการเมือง” ไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่ ?