หุ้น STARK มหากาพย์โคตรโกง เสียหายหลักหมื่นล้าน สมมุตว่าเรารู้แค่เพียงพื้นฐานของหุ้นตัวนี้คร่าวๆเราจะรู้ตัวก่อนหายนะหรือไม่ ???
หุ้น STARK เป็นหุ้นที่ถูก Backdoor เข้ามาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งธุรกิจจริงๆ ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นมานานแล้ว ข้อมูลจากกราฟ Tradingview มีมาตั้งแต่ปี 2006 ที่สำคัญในเว็บ SET ลองเข้าไปดูตรงสิทธิประโยชน์จะพบว่า ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ไม่มีการจ่ายปันผลใดๆ มีแค่ วาระการประชุม ที่เป็นเรื่องของการเพิ่มทุน ซะเยอะแยะเลย 55 (น่ากัว) ซึ่งข้อมูลใน SET นั้นก็ได้บอกไว้ถึงรายละเอียด ข้อสรุปงบการเงิน ของ STARK ไว้ ซึ่งมีข้อกังขาว่า มีหลายกองทุนเสียหายเพราะหุ้นตัวนี้มากมาย แต่ไม่มีใครเอ๊ะใจบ้างเลยหรืออย่างไร หรือว่ามมันมีข้อมูลตรงไหน ผิดปกติบ้างไหม
ลองสมมุตตัวเองว่าเป็นนักลงทุนทั่วไปที่พอจะทราบเรื่องของการอ่านงบการเงินแบบสรุปพอได้บ้าง ไม่ถึงกับเก่งกาจอะไร แค่อ่านหน้าสรุปได้แค่นั้น เราจะพอรอดจากมหาวิบัติ STARK ได้หรือไม่ ?? เราลองมาดูครับ
อันดับแรกเลย มีข้อมูลตั้งแต่ปี 2561 ถึง งบ 9 เดือน ปี 2565 แต่จะดูคร่าวๆ และจะไม่ดูข้อมูลเชิงลึกนะครับ
ปี 2561 มีผลการดำเนินงานติดลบ
ปี 2562 มีผลการดำเนินงานพลิกเป็นกำไร , สินทรัพย์และหนี้สินรวมเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล, ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่ม, หุ้นเรียกชำระเพิ่มเยอะมาก, รายได้รวมก็เพิ่มอย่างมากแต่กำไรสุทธิ คิดเป็นแค่ 2% , ROA,ROE พุ่งกระฉูด ถือว่าเป็นปีที่พลิกฟื้นเลยทีเดียวแต่เป็นปีที่ต้องเอาข้อมูลมาเจาะลึกเพราะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างแน่นอน แต่ถ้าดูผ่านๆคือ ดี
ปี 2563 มีผลการดำเนินงานดีกว่าปี 2562 อีกครับ EPS อยู่ที่ 0.14 (ปีที่แล้ว2562= 0.01) แต่เอ๊ะ !! ทรัพย์สินรวมเพิ่ม แต่ไปเพิ่มในส่วนของหนี้สินรวมมากกว่าเท่าตัวจากปีก่อน, ส่วนขอผู้ถือหุ้นเพิ่มมานิดเดียวเอง ,แต่รายได้ก็เพิ่มนะ เพิ่มเยอะด้วย ROE มากถึง 53.84 แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือธุรกิจอะไรบางอย่างแน่ๆ แต่ดูผ่านๆคือ ดีเลยครับ
ปี 2564 มีผลการดำเนินงานดีกว่าปีก่อนอีกครับ EPS เพิ่มมาอยู่ที่ 0.23 แถมไม่มีกำไรพิเศษด้วยครับ แต่ๆๆๆๆ หนี้สินทำไม มันเพิ่มอีกกว่าหมื่นล้าน สมมุติว่าตังค์ในกระเป๋าเรามี 39 บาท เป็นเงินที่เรายืมเพื่อนมา 32บาท เป็นเงินเราจริงๆแค่ 7 บาท ทำไมบริษัทนี้ถึงขยันสร้างหนี้ได้ทุกปีๆเลย แต่รายได้ก็โตดีนะครับ แค่มันมีจุดแปลกๆตรงหนี้สินแค่นั้นเองครับ
ปี 2565 มีแค่งบ 9 เดือนแรก ดูแนวโน้ม 9 เดือนแรก ก็น่าจะมีรายได้พอๆกับปีที่แล้ว แต่หนี้สินมันโตอีกแล้ว เอ้ มันก็แปลกๆตรงนี้ ตรงจุดอื่นๆก็ไม่มีอะไรนะครับ แม้ว่า ROE ปีนี้ drop ลงมาหน่อยๆ
หากเราลองอ่านและแปลคร่าวๆ ก็สรุปได้ว่า บริษัทนี้ มันมีจุดของการสร้างสินทรัพย์เพิ่ม ด้วยการสร้างหนี้เพิ่มเป็นหลัก แต่มันก็ทำให้รายได้โตขึ้นอย่างมีนัยยะเช่นกัน เพียงแต่หนี้มันดูเพิ่มโหดมากๆและมีความเสี่ยงมากๆ แม้ว่าจะไม่ได้ดูรายละเอียดข้างในซึ่งจริงๆแล้ว ต้องเจาะลึกงบการเงินข้างในครับ แต่เราแค่ลองวิเคราะห์ว่า หากเราดูแค่หน้านี้ มันจะรู้ได้แค่ไหน หากเราเป็นแค่นักลงทุนรายย่อยทั่วไปที่มีความรู้ไม่ได้มากมาย
ส่วนนี้หลักๆเลย เค้าเอามาให้ดูว่าหุ้นตัวนี้ มันมีความถูก-แพง อย่างไร หรือไม่
อย่างปี 2565 ปีล่าสุด บอกว่า PE อยู่ที่ 10.73 โอ้วพระเจ้า มีกูรูบอกไว้ว่า หากหุ้นตัวนั้นธุรกิจดี แต่ไม่โตหรือโตช้า ราคาที่เราพอรับได้ คือ PE=10 ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นแบบไหน เพราะไม่ได้ตามเลย แต่ PE 10 ในตลาด SET ตอนนี้ ถือว่าถูกกว่าหลายๆตัวเลยด้วยซ้ำ แถม PBV อยู่ที่ 2.36 เท่า ลดลงจากปีก่อนๆชัดเจน หากลองมาดู มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น อยู่ที่ 1.06 มันก็เท่ากับว่า ณ ราคา 2.50 บาท จะเอามาคิดเป็น PBV = 2.36 เท่า ตรงจุดนี้เอาไปใช้อะไรไม่ค่อยได้ครับ ใช้ดูคร่าวๆแค่นั้น แต่ดูภาพรวมๆแล้ว หุ้นราคาถูกลงจากเดิม ณ 30 ธค.2565 มันบอกแค่นั้น
ลองมาดูกราฟ
กราฟบอกอะไร ???
มันบอกว่า มี นกรู้ มาก่อนแล้วครับ ตั้งแต่ปิดงบ Q3/2565 คือ 30 กันยายน 2565 แต่กว่างบ Q3 จะออก ก็ต้องรอ 45 วันหรือเดือนครึ่ง งบถึงจะออก แต่ต้น Q4/2565 คือ ราคามันไปแล้วครับ
แล้วเค้าต้องส่งงบปี หรือ งบ Q4 เมื่อไหร่ ?? ก็ต้องตอบว่า ภายใน 60 วัน หรือก็คือประมาณ สิ้นเดือน กพ.2566 นั่นเอง แต่ๆๆๆๆ ลองมาดูข่าวใน SET ที่รายย่อยอย่างเราพอจะเข้าถึง
แหมๆ มีการซื้อหุ้นคืนด้วยนะเอ่อ 55 แต่วงใน น่าจะรู้ตั้งแต่ สิ้น Q3-2565 แล้ว
นี่ก็เป็นกรณีศึกษาที่จะเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ส่วนตัวแล้วไม่ได้ตามหุ้นตัวนี้ เพราะไม่ใช่ทางของตัวเอง ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากหุ้นตัวนี้ครับ ขอให้ความยุติธรรมมีจริงและได้คืนความยุติธรรมนี้ให้กับผู้ถือหุ้น STARK โดยเฉพาะรายย่อยที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้