การปล่อยให้เสรีกัญชาในประเทศไทย เกิดประโยชน์อะไรบ้างต่อประเทศชาติ  ??

ท่านลองนึกและตอบคำถามในใจของท่านดูด้วยใจที่เป็นกลาง

นอกเสียจากเรื่องของการจำหน่ายกัญชาแบบเสรี !!  ในหลายๆจังหวัด เช่นที่ผมพบเห็น ขอยกตัวอย่างในจังหวัดเชียงใหม่ ที่พบเห็นร้านจำหน่ายกัญชา ผุดขึ้นเยอะแยะมากมายยิ่งกว่า เซเว่นซะอีก และเมื่อเดินทางไปจังหวัดต่างๆ ก็พบเจอทุกจังหวัด

กัญชาที่จำหน่ายใช้ในการรักษาใช่หรือไม่ ?   ตอบว่า  ไม่ !!

มันเพื่อการสันทนาการล้วนๆครับ  ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมในระยะกลาง – ยาว  อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

กัญชา มีผลต่อสมอง โดยเฉพาะเด็ก ยิ่งอายุน้อยเท่าไหร่ ก็มีผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น

ท่านรู้รึเปล่าว่า ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ก่อนที่จะเลือกตั้ง ได้มีนโยบายให้มีการบำบัดผู้เสพยาเสพติด  โดยไม่ให้มีความผิด ในแนวคิดที่ว่า  ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย (ไม่ใช่ผู้ต้องหา) จึงมีการนำผู้ที่เสพหลายคนมาเข้าค่ายบำบัด(ทุกจังหวัดในประเทศไทย) และจากการสอบถามผู้ที่เข้าค่ายฯ  พบข้อมูลที่น่าตกใจ คือ ยาบ้า มีราคาถูกมากๆ และเข้าถึงง่ายมากๆ  มีบางคนให้ข้อมูลว่า  ยาบ้ามีราคาแค่เม็ดละ 1 บาทก็มี  แต่ส่วนมากจะบอกว่ามีราคา 10-20 บาท/เม็ด  และเกือบทุกคนยอมรับว่ามีการเสพกัญชา ร่วมด้วยเสมอ เพราะว่าไม่ผิดกฏหมาย

พูดมาถึงตรงนี้  หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่า สรุปแล้วกัญชานี่ผิดกฏหมายหรือไม่ผิดกันแน่  ขอตอบอีกครั้งหนึ่งว่า ในปี 2566 นี้  ณ ตอนนี้  กัญชาสามารถนำมาเสพได้ในบ้านของตนเอง หรือพื้นที่ปิด  โดยไม่ผิดกฏหมาย  แต่ถ้าหากนำไปเสพในพื้นที่สาธารณะจะผิดกฏหมายเรื่อง เหตุรำคาญ เพราะไปรบกวนคนอื่นนั่นเอง  แม้ว่ากัญชาจะสามารถนำไปใช้ในเรื่องของการนำไปเป็นยารักษาโรค การบำบัดโรค แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่า ถูกนำไปใช้ในการเสพเพื่อสันทนาการซะมากกว่า  และทำให้ปัญหาผู้ป่วยจิตเวชในประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนกลายเป็นปัญหาในที่สุด

ตอนนี้คนบ้า คนจิตเวช  คนโรคจิตที่ก่อความรุนแรง  เยอะแยะมากมายในพื้นที่  ท่านลองมองดูพื้นที่รอบๆบ้านท่านดูสิครับ ว่ามันเพิ่มขึ้นหรือไม่  เมื่อเทียบกับตอนที่ยังไม่มีนโยบายเสรีกัญชา   เพราะผู้เสพยา เวลาเค้าจะเสพเค้าก็เอากัญชามาบังหน้ากันทั้งนั้นแหละครับ พอตำรวจจะจับก็บอกว่าผมเสพกัญชานะ  ไม่ได้ผิดกฏหมาย  (คนเสพ เค้าไม่ได้เสพยาตัวเดียวหรอกครับ  มันมีอะไรมันก็เสพหมดแหละ )  พอพูดมาถึงตรงนี้ หลายๆคนก็อาจจะบอกว่า  มันจะเสพก็เสพไป  ใครจะเสพยาจนตาย จนบ้าไป ก็เรื่องของมัน เราก็แค่ไม่ต้องไปยุ่งกะมันก็สิ้นเรื่อง !!    หากเราคิดแบบนี้ มันจะจริงเหรอ ??

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบกับคนบ้า คนเสพยาใกล้บ้าน  ที่มีอาการบ้า  ก้าวร้าว  ทำร้ายผู้คน  คุณจะไม่พูดแบบนี้ครับ  ยกตัวอย่าง ไม่กี่วันมานี้  ข่าวออกทุกช่อง ว่ามีคนบ้า ถือมีด วิ่งเข้าไปจะทำร้ายนักเรียน ซึ่งโชคดีว่ามีครูฮีโร่ช่วยไว้ได้ทัน  ไม่เช่นนั้น ลูกหลานของท่านตัวเล็กๆอาจจะได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตก็เป็นได้  แล้วแบบนี้จะยังบอกว่า ไม่เกี่ยวกับท่านอีกหรือไม่ ?

และด้วยตัวบทกฏหมาย ที่ค่อนข้างอ่อนมากๆ ในบ้านเรา เมืองเรา  ผู้ที่เสพยา ค้ายา ส่วนใหญ่หากถูกจับก็กลายเป็นผู้เสพ และสุดท้ายก็กลายเป็นผู้ป่วย  ??   เป็นผู้ป่วยแล้วไง   ก็เป็นภาระของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไงครับ !!  ตำรวจก็ต้องมาไล่จับ  แล้วก็ปล่อย แล้วก็จับ อยู่อย่างงี้แหละครับ บางคนเข้าๆออกๆคุก ปีหนึ่ง 3-4 รอบ  แบบนี้ไม่ใช่ภาระเหรอครับ   และในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขก็เช่นกัน  จับมาบำบัด แล้วก็กลับไปเสพอีก ไปค้าอีก แล้วก็กลายเป็นผู้ป่วย ก็เข้าสู่การบำบัดอีกเรื่อยๆ  แค่เรื่องนี้ก็ไม่ต้องทำอย่างอื่นละครับ   ไหนจะหน่วยงานกระทรวงมหาดไทย หรือ หน่วยงานปกครอง ก็ไม่พ้นต้องรับนโยบายมาแก้ไข ต้องมาตามจับ ตามแก้ไขปัญหา  ไหนคนบ้าเพราะยาเสพติดจะคุ้มคลั่ง จะก้าวร้าว ทำร้ายคนในหมู่บ้าน  บางคนพอรู้ว่าไอ่คนนี้จะออกมาจากคุก จะได้เข้ามาในหมู่บ้าน  ก็เดือดร้อนกันใหญ่  ความสงบสุขของหมู่บ้านก็จะหายไป  ความสุขของคนในพื้นที่หายไป  แล้วใครจะรับผิดชอบตรงนี้  แค่คนไม่กี่คน สร้างปัญหาให้คนส่วนใหญ่   เพียง 1 คน ก็ทำให้คน 100 – 200 คน เดือดร้อน

อยากถามว่า “กฏหมายบ้านเรามันกระจอกไปไหม ?”

มันควรกลับมาคิดทบทวนกันได้แล้วครับ    นโยบายกัญชามันให้ประโยชน์คุ้มกับที่เปิดเสรีหรือไม่ ?  ใครได้ประโยชน์กันแน่ ? แล้วประเทศชาติเสียอะไรไปบ้าง ?  ใครจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ?

เรามักจะเห็นข่าวทางทีวี  อินเตอร์เน็ต และสื่อต่างๆมากมาย  แม้แต่ชาวบ้านทั่วไป ที่ไม่ได้จบสูง เรียนสูง ยังพอที่จะคิดได้ว่า กฏหมายบ้านเรามัน “อ่อน” จนถึงขั้นกระจอก   ดูง่ายๆเลยครับ  อาชญากรรมข้ามชาติ มากมาย ไม่ว่าจะเรื่องยาเสพติด, การหลอกลวง, คอลเซ็นต์เตอร์, การค้ามนุษย์ ฯลฯ  เยอะแยะมากมายเพราะอะไรละครับ   ง่ายๆเลยครับ เพราะเค้าไม่กลัวไงครับ   โทษมันน้อยไงครับ  หากไม่แก้ไขตรงนี้  ปัญหามันก็เกิดเรื่อยๆครับ เพราะโจรมันไม่กลัวตำรวจ

สุดท้ายแล้ว  กัญชา คือ พืชที่สามารถนำมาใช้เป็นยา เพื่อบำบัด รักษาได้  และใช้เป็นสิ่งเสพติดมึนเมา เพื่อสันทนาการได้  มีโทษต่อร่างกายของมนุษย์  ต่อสมอง โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่นจะได้รับผลกระทบทางสมองอย่างมาก หากยังปล่อยให้มีการเสพอย่างเสรี  เกรงว่า เยาวชนที่มีอยู่น้อยนิดในประเทศไทย เนื่องจากอัตราเกิดที่น้อยลง จะลดคุณภาพของความเป็นคนลง แล้วในระยะยาว ใครจะเป็นอนาคตของประเทศ  หากเยาวชนเป็นเช่นนี้

แก้ไขนโยบายทำลายชาติ

เพิ่มความรุนแรงของการบังคับใช้กฏหมาย

กวาดล้างอย่างจริงจัง  ทำจริง  ลงโทษให้หนัก

ควบคู่กับการบำบัดรักษา  ดึงผู้หลงผิด  ให้กลับสู่สังคม

นั่นคือสิ่งที่อยากจะนำเสนอครับ