รีวิว น้ำยากันรั่วซึม ที่วางขาย ใช้งานได้จริงไหม ใช้ทนไหม ลองมาดูกัน
วันนี้เราจะมารีวิว น้ำยากันรั่วซึมที่อ้างสรรพคุณว่าสามารถกันรั่ว กันซึม กันน้ำได้ง่ายๆ เพียงแต่ทาๆ ลงไปเท่านั้น ซึ่งพอดีว่าผมมีเหตุที่จะต้องใช้งานน้ำยากันรั่วซึมอยู่พอดีเลย เพราะว่าอ่างปลูกบัวของผม ที่ทำจากดินเผา ถูกใครก็ไม่รู้ทำให้มันร้าว และกลายเป็นว่าน้ำมันรั่วซึมออกมา ทำให้อ่างบัวของผมเก็บน้ำไม่อยู่นั่นเอง
หลังจากที่หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมาพอสมควร ก็ไปเจอน้ำยากันรั่วซึมตัวนี้ ที่มีขายตามร้านค้าออนไลน์ทั่วไป ในราคาไม่แพง (ที่เห็นวางขายกันอยู่ ประมาณ 80-150 บาท แล้วแต่ร้าน) ส่วนผมนั้นก็จัดร้านราคาถูกๆมาซะด้วย เลยอยากจะมาเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การใช้งานจริง ว่างานแบบที่ผมว่ามานั้น มันจะสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ ?
เอาละ ลองมาเริ่มแกะอุปกรณ์ที่ได้ซื้อมากันเลยครับ
ผมสังเกตุได้ว่า ตัวครีมคล้ายๆกับซิลิโคนกันรั่วซึมที่เป็นหลอดๆ แต่จะไม่เหนียวเท่า และมีปริมาณมากหากเทียบกับซิลิโคน ในราคาเท่ากัน ซึ่งวิธีใช้มันก็คงไม่มีอะไรมากครับ แค่ทาๆๆ เท่านั้น แต่จริงๆแล้ว มันมีจุดให้เราสังเกตุและเรียนรู้อยู่ครับ จะขอเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
การทดลองครั้งที่ 1
*** บทสรุปของวิธีที่ 1 = ไม่สามารถกันรั่วซึมได้
เพราะว่า แท้จริงๆแล้ว เวลาครีมมันแห้ง มันจะยังมีส่วนที่เป็นดินเผาที่ยังซึมน้ำได้อยู่แล้วนิดหน่อย ซึ่งมันจะทำให้รอยร้าวมีมากขึ้น (ผมลองแล้ว)
การทดลองครั้งที่ 2
ทามันให้ทั่วทั้งอ่าง ในส่วนของด้านใน โดยทา 1 รอบ
*** บทสรุปของวิธีที่ 2 = ไม่สามารถกันรั่วซึมได้นาน
ผมเดาว่า อาจจะมีบางส่วนที่ยังมีจุดที่เราทาไม่ทั่วถึง เวลาใส่นำแล้วยัง มีการรั่วซึมเล็กน้อย
การทดลองครั้งที่ 3
ทามันให้ทั่วทั้งอ่าง 2-3 รอบ ในส่วนของด้านใน (ทาแล้วรอมันแห้ง แล้วทาใหม่) และทาขึ้นมาจนถึงปากอ่างด้านในด้วย + การทาตรงด้านล่างด้วย โดยทาครึ่งหนึ่งของส่วนฐาน(ทางข้างใต้ด้วย)
สรุปสุดท้าย น้ำยากันรั่วซึมนี้ มีคุณสมบัติคล้ายๆซิลิโคน เวลาทาแล้วมันจะแห้งคล้ายๆยาง ซึ่งน้ำไม่สามารถผ่านได้ แต่ถ้าเราเอาอะไรไปขูดๆมัน มันจะเสียไปเลยนะครับ เราต้องทาน้ำยาใหม่ น้ำยาตัวนี้พอแห้งแล้วมันจะนุ่มๆ ไม่แข็ง ไม่กันแรงขูด แรงกะแทกแรงๆนะครับ และถ้าหากพื้นผิวไม่แห้ง เวลาทา จะทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะจะไม่ค่อยดี ดังนั้น ต้องทำให้พื้นผิวแห้งๆ ซะก่อนครับ และต้องรอเวลาที่น้ำยามันแห้งดีซะก่อน ค่อยให้สัมผัสกับน้ำ จะดีที่สุดครับ