One Championship 8มิ.ย.67 สิทธชัยvsมาซาอากิ, รถถังvsเดนิส, ตะวันฉายvsโจ (มวยไทย) ดราม่ากระจาย

จบกันไปแล้ว สำหรับ ONE167 ในวันที่ 8 มิถุนายน 2567 ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7 TERO Entertainment ซึ่งเป็นแมตท์ใหญ่มาก เช่นการกลับมาของ รถถังในรอบเกือบ 1 ปี , ไมกี้ จะต้องลบภาพจำที่เคยพ่ายแพ้, เคด ที่ต้องเปลี่ยนสายมาเป็น MMA, และการป้องกันแชมป์โลกมวยไทยของแชมป์โลกชาวไทย ตะวันฉาย กับ โจ ณัฐวุฒิ ที่เป็นภาค 2 ในกติกามวยไทยเต็มรูปแบบ และจบลงด้วยดราม่า ของแฟนๆมากมาย

สำหรับสิทธิชัย ไฟท์นี้ ถือว่า ทำการบ้านมาดีมากๆ และสามารถชนะได้โดยไม่ยากเย็นเลย

สำหรับมาซาอากิ โนอิริ พึ่งจะก้าวเข้ามาใน ONE อาจจะยังอยู่ในช่วงปรับตัว สำหรับอนาคตคาดว่าจะเป็นนักมวยที่น่าจับตามองเลยทีเดียว

สำหรับคู่ของ รถถัง กับ เดนิช พูริช ก็เป็นรถถังเอาชนะไปได้ตามความคาดหมาย ในกติกา Kick Boxing ตามที่ เดนิช ได้เรียกร้องให้ไฟท์นี้เกิดขึ้น แม้ว่ารถถังจะทำน้ำหนักไม่ได้ และต้องเสียค่าชดเชยให้กับเดนิส ไป แต่ต้องยอมรับในหัวใจสปิริตนักสู้ของเดนิชมากๆ เพราะจะไม่ต้องชกก็ได้ แต่เค้าเลือกที่จะชก และก็ทำได้ดีเสียด้วย

ในกติกานี้ เดนิช สุ้กับรถถังได้สนุกมาก แต่เป็นที่แน่นอนว่า ยังไม่เพียงพอที่จะเอาชนะรถถังได้ และรถถังก็ได้เคลียร์ดราม่าท้ายแมตอีกด้วย

และแล้วก็มาถึงคู่เอก คู่ชิงแชมป์ ศึกสายเลือดจากประเทศไทย ทั้งคู่ ซึ่งก่อนชก โจ เป็นรองอย่างชัดเจนในสายตา และด้วยความร้อนแรงของตะวันฉายในกติกามวยไทย นั้น ถือว่าเป็นต่ออย่างมาก ในเวที ONE แต่พอได้สู้กันจริงๆ บอกเลยว่าสูสีมากๆ กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต่างมีดราม่าตอนจบเกมส์ หลายคนบอกว่าโจ ควรเป็นฝ่ายชนะ แม้แต่บอสชาตรีเองก็ตาม แต่กรรมการตัดสินแล้วว่า ตะวันฉายชนะและแชมป์ก็ยังไม่เปลี่ยนมือ นั่นคือสิ่งที่เป็นในขณะนี้

ในสายตาของผู้ชมทั่วไป อาจจะให้ใครชนะนั้น ก็คงแล้วแต่สายตาของแต่ละท่าน และผมเองก็เช่นกันที่ ดูมวย ONE เป็นกีฬา และไม่ได้เชียร์ทีมไหน เชียร์ใครเป็นพิเศษ ไมไ่ด้อยู่ทีมใดๆ ก็อยากจะขอพูดในมุมมองของผมโดยไม่ได้สนติ่งใครทั้งสิ้น
มาว่าถึงผลการแข่งขันก่อน อย่างที่ทราบคือ ONE ไม่มีเสมอ มีแต่ชนะ กับแพ้ แต่ความรู้สึกผมคือ ไฟท์นี้ = เสมอ คือ ยก 1-2 ไม่สามารถบอกว่าใครชนะ ยก 3 โจทำได้ดีกว่า ยก 4 ตะวันฉายชัดเจนกว่า และยก 5 ไม่สามารถบอกได้ หากเป็นดังนี้ ก็คือ เสมอ แต่หากมองตามบาดแผลที่ปรากฏ ตะวันฉายตาซ้ายบวมเกือบปิด, ต้นขาขวาถูกเตะจนเจ็บ ส่วนโจ โดนเตะชายโครงขวา ต้นแขนขวา แต่อาการแทบไม่มี ยกเว้นยกที่ 4 สำหรับรูปเกมส์ทั้ง 5 ยก โดยรวม ตะวันฉายเดินทำมากกว่า
พูดถึงเรื่องการเตรียมตัวมา ต้องยกให้ โจ ณัฐวุฒิ เลยครับ ทำการบ้านมาดีมากๆ แม้ชื่อชั้นทางมวยไทย จะด้อยกว่า แต่แผนคือ ไม่ยืนรับ ไม่ยืนบัง แต่อาจจะทำให้รูปเกมส์ออกไปทางเน้นหลบหลีก ไม่ปะทะ แล้วก็ดันได้ผลด้วยสิ ตะวันฉายพอเตะวืดหลายๆที มีอาการหัวเสียชัดเจน แล้วใช้การดักทำแต้ม คล้ายสไตร์คิกบ๊อกซิ่งซะมากกว่า แต่ด้วยความแม่น+นวมเล็กเปิดนิ้ว พอต่อยโดนก็ให้ผลที่เกินคาดได้ ดูจากตาซ้าย และดูไม่เป็นรองเลยวันนี้ในภาพรวม
สำหรับตะวันฉาย ต้องบอกว่า ไฟท์นี้ น่าจะเป็นไฟท์ที่ทำการบ้านมาผิดพลาด และเจ้าตัวเคยพูดว่าจะเริ่มหันไปเอาดีทาง KickBoxing เพื่อล่าเข็มขัดอีกเส้น ส่วนตัวมองว่าไฟท์ก่อนที่ต่อย KB กับโจ ยังทำได้ดีกว่านี้ แต่ไฟท์นี้ไม่รู้ว่าซ้อมมายังไง มีความสับสนในตัวเอง ต่อยมวยไทย แต่กลายเป็นติด KB ซะงั้น วงในแทบไม่มี ศอกแทบไม่มีให้เห็น แต่น่าจะพึ่งรู้ตัวตอนยกที่ 4-5 เข่าก็แทบจะไม่ทำเลย รอให้กรรมการมาแยกอย่างเดียว นี่มัน KB ชัดๆ แต่ด้วยความหนักของแข้งซ้าย จึงพอเอาตัวรอดได้ในแมตนี้ ทั้งๆที่กติกานี้ เราเป็นแชมป์ แต่ยังไม่เห็นความเป็น มวยไทย ที่ชกได้สวยงาม หลากหลาย มีอาวุธครบเครื่อง ดุดัน ในไฟท์นี้เลย มีแต่ความสับสนในมวยไทยกับ KB ถ้ายังเป็นแบบนี้ เข็มขัดเส้นนี้ก็จะรั้งไว้ไม่อยู่นะครับ ไม่ต้องไปพูดถึงเข็มขัด KB
ท้ายๆแล้ว สำหรับคนชมที่ให้ โจ ชนะ ผมก็ยังมองว่า ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ คือมัน 50-50 นะ และถ้ากติกาสากลทั่วไป ในการชิงแชมป์ หากมีการชิงแชมป์และผลออกมาว่า “เสมอ” นั่นคือ เข็มขัดจะอยู่ที่เดิม ส่วนตัวผมมองว่าผลการตัดสินวันนี้ถูกต้องแล้ว เพราะ ONE ไม่มีเสมอ แต่ผลจริงๆ คือ เสมอ จึงต้องชูมือให้ ตะวันฉาย สุดท้าย บอสชาตรี ยังต้องจัดรีแมต ภาค 3 คราวนี้แหละ การชี้ชะตาที่แท้จริงจะเริ่มขึ้น เรียกลูกค้า คนดู ให้มากขึ้น
ให้กำลังใจนักสู้ทั้ง ตะวันฉาย และ โจ ณัฐวุฒิ นะครับ มีภาค 3 หมายความว่า นักมวยได้ตังค์คับ อย่าไปคิดมาก